เพศสัมพันธ์ในผู้ป่วยโรคหัวใจ

เป็นเรื่องปกติในผู้ป่วยโรคหัวใจที่จะมีความรู้สึกไม่มั่นใจ กลัว และวิตกกังวลเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะคิดว่าทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ในความเป็นจริงนั้นการมีเพศสัมพันธ์ (ในคู่นอนเดิม) จะเพิ่มการทำงานของหัวใจเท่ากับการเดินขึ้นบันได 2 ชั้น หากผู้ป่วยสามารถทำได้การมีเพศสัมพันธ์ถือว่าปลอดภัย ซึ่งรวมถึงความเข้าใจในการปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง การมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าวิตก

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจรวมถึงผู้ที่ได้รับการผ่าตัด
1. ควรมีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจกับคู่สมรส (คู่นอน) อย่างเปิดเผยในความคิดวิตกกังวลของตนเอง
2. ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนมีเพศสัมพันธ์
3. เลือกสถานที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีบรรยากาศสบายๆ ไม่ควรร้อนชื้น หรือหนาวเกินไป
4. การเริ่มต้นควรเป็นไปอย่างช้าๆ ไม่รีบร้อน และควรมีการเล้าโลมก่อนทุกครั้ง จะได้ไม่เพิ่มการทำงานของหัวใจ
5. การเลือกท่าควรเป็นท่าปกติทั่วไปและสบาย ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยควรเลือกเป็นฝ่ายตั้งรับ และคู่สมรสเป็นฝ่ายรุกแทน
6. การเปลี่ยนคู่นอนใหม่ ควรตระหนักว่าหัวใจจะทำงานหนักขึ้น
7. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ หากเกิดความเครียด
8. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หลังรับประทานอาหาร เพราะการย่อยอาหารจะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น ควรรอสัก 2-3 ชั่วโมงก่อนเป็นอย่างช้า
9. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพราะว่าแอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดขยายตัว หัวใจทำงานหนักขึ้น
10. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์หากมีอาการแน่นหน้าอก ควรอมยาใต้ลิ้นและไปพบแพทย์
11. มียาโรคหัวใจหลายชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อการมีเพศสัมพันธ์ หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์
ข้อควรระวังและสังเกตตนเอง

อาการต่อไปนี้เป็นข้อบ่งชี้ว่าหัวใจคุณทำงานหนักเกินไป
- เจ็บหน้าอกระหว่าง หรือหลังมีเพศสัมพันธ์
- อัตราการหายใจเร็วขึ้น หัวใจเต้นเร็วและแรงขึ้นเป็นเวลานานกว่า 15 นาที หลังมีเพศสัมพันธ์
- นอนไม่หลับ
- แขน ขา อ่อนแรงในเวลา 24 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์
- หากมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรไปปรึกษาแพทย์
แบ่งปันสาระสุขภาพดีๆ โดย "ศูนย์หัวใจ" โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต
"ดูแลหัวใจคุณ ด้วยหัวใจของเรา"

http://www.phukethospital.com/eng/center_heart.php
eMail : info@PhuketHospital.com